วันอังคารที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2553

สัปดาห์ที่ 4 ของเดือนสิงหาคม 2553

สัปดาห์นี้หัวหน้าอยู่ที่ห้องข่าวค่ะก็เลยงานเยอะนิดนึง แล้วก็ได้ไปทำงานข่าวช่วงอีสานวันนี้ที่ อ.พล ไปที่วัดค่ะ งานปลูกป่า แล้วก็ได้ไป เปิดศูนย์การเรียนรู้ ICT ที่อ.อุบลรัตน์ แล้วก็ได้ไปที่เขื่อนก็ไปตามเรื่องน้ำอีกเช่นเคยค่ะติดตามสถานการณ์น้ำในเขื่อนอ่ะค่ะ มีน้องที่มาทดลองงานเป็นเด็กสาธิตมข. ติดตามไปด้วยค่ะชื่อน้องซี เพราะว่าเค้าต้องการเข้าเรียนเกี่ยวกับสาขานิเทศน์ก็เลยมาลองเรียนรู้ดู แล้วก็ได้ทำงานเกี่ยวกับวีดีโอเกษียณด้วย แต่อันนี้ก็ช่วยๆ กันทำ นุชทำหน้าที่พิมพ์ค่ะ แล้วก็เอาสื่อให้พี่ บก. ตรวจ แล้วก็แก้เช่นเคย เฮ้อ....

สัปดาห์ที่ 3 ของเดือนสิงหาคม 2553

สัปดาห์ก็ต้นสัปดาห์ก็ให้พี่นาง ตรวจสื่อนี่แหละค่ะ แล้วก็ได้แก้ไขตามระเบียบ ได้ไปงานขอนแก่น Expo 2010 ที่ศูนย์กาญจนาภิเษกด้วยค่ะ ก็ได้ลงนามถวายพระพร ติดต่อสอบถามข้อมูลข่าวทั่วไปเพราะว่าไม่มีสารข่าวค่ะ แล้วก็กลับมาเขียนข่าวที่หัองไปเขื่อนอุบลรัตน์ เเวะ SCG ด้วยค่ะ พี่ๆ เค้าแวะไปทำธุระที่นี่เพราะว่าคาดว่าจะมีการแข่งขันกีฬาระหว่างสื่อกับบริษัทนี้แหละค่ะ ก็ได้ไปเที่ยวด้วย แล้วก็ตัดต่อสกู๊ปงามอย่างไทย (ต้องเสร็จ) แล้วก็เสร็จ แต่ยังไม่ได้ตรวจเลย อาทิตย์นี้พี่ๆ เค้าไม่ค่อยว่างกันเท่าไหร่เลย แล้วก็ช่วยงานทั่วๆ ไปค่ะ

สัปดาห์ที่ 2 ของเดือนสิงหาคม 2553

ในสัปดาห์นี้ได้ไปทำข่าวในโรงแรมเป็นส่วนใหญ่ก็เช่นเรื่องของการร่างผังเมืองในจังหวัดขอนแก่น แล้วก็ได้รับงานตัดต่อนั่นแหละค่ะก็ได้ทำงานตัดต่อที่ห้องเป็นส่วนใหญ่ไม่ได้ไปไหนเลย เฮ้อ อยากออกข้างนอกบ้างเหมือนกัน แล้วก็ได้ทำงานช่วยภายในสำนักงานทั่วๆไปค่ะ แล้วก็เป็นการหยุดวันแม่ๆๆๆๆๆๆๆ อิอิ สบายสุดๆๆๆๆ

สัปดาห์ที่ 1 ของเดือนสิงหาคม 2553

สัปดาห์นี้ได้ออกไปทำงานที่เขื่อนอุบลรัตน์บ่อยเพราะว่าอีกนานจะเกิดอุทกภัยเนื่องจากฝนที่ตกลงมามากเกินความสามารถที่เขื่อนจะสามารถรองรับได้ และได้ทำงานเกี่ยวกับการตัดต่อสกู๊ปเรื่องงามอย่างไทย 3 ตอน (ไม่รู้เหมือนกันว่าจะต้องใช้เวลากี่อาทิตย์เนี่ยจะเสร็จ... เฮ้อ) ช่วยพี่ทีมงานตัดต่อทำแล้วถึงจะให้ บก. ตรวจสอบอีกรอบนึงค่ะ เพราะฉะนั้นอาทิตย์นี้หนักในเรื่องของการเลือกภาพ ไฟล์ภาพที่จะนำมาใช้ในการตัดต่อแล้วก็สคริปที่ได้จากพี่ บก. ก็ให้พี่อ้อย (ผู้สื่อข่าวลงเสียงให้ค่ะ) แล้วก็เอาไปตัดต่อคาดว่าน่าจะได้ทำในอาทิตย์หน้านะเนี่ย...

วันจันทร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2553

วันศุกร์ที่ 30 กรกฎาคม 2553

วันนี้มีงานต้องไปเก็บภาพจากโรงเรียนชีกอค้อเพื่อนำมาทำสกู๊ปในตอนของโรงเรียน ไปสัมภาษณ์นักเรียนเกี่ยวกับการเป็นพยาธิ เนื่องจากเด็กนักเรียนโรงเรียนนี้มีคนที่เป็นโรคพยาธิใบไม้ตับเป็นอันดับสองในสิบสามหมู่บ้าน ได้สัมภาษณ์แล้วก็ไปเก็บภาพการเรียนการสอนในห้องเรียนในวิชาสุขศึกษา จากนั้นก็กลับมาที่สำนักงานและมีงานเข้ามาอีกคือประประชุมแจกแจงงบประมาณไตรมาส 2 ของปีนี้ ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยที่ริมบึงแก่นนคร และจากนั้นก็มีการเข้าจับกุมของเจ้าหน้าที่โต๊ะพนันบอลออนไลน์ มีการบุกเข้าจับกุม มีนักข่าวมากมายหลายช่องไปรออยู่ที่นั่น ทำข่าว เอาของกลางมาแจกแจงให้พี่ๆ นักข่าวดูพร้อมกับเจ้าหน้าที่แถลงข่าวการจับกุมครั้งนี้ในสถานที่ที่เป็นแหล่งของการพนันเลยค่ะ พอทำข่าวเรียบร้อยก็กลับมาเขียนข่าวที่ห้องข่าว ส่งเข้าศูนย์ข่าวให้เพื่อให้ไปออกข่าวค่ะ

วันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคม 2553

วันนี้อัพข่าวขึ้นเว็ป จากนั้นก็มาซ้อมเสียงให้พี่ๆ ผู้ประกาศฟังอีกรอบ แล้วก็ทำงานทั่วๆไปที่พี่ในฝ่ายโทรทัศน์ให้ทำ วันนี้ไม่มีข่าวค่ะ และเนื่องจากพี่ๆ ช่างกล้องต้องไปอัดรายการที่ต่างจังหวัดจึงไม่มีช่างกล้องไปถ่ายทำเก็บภาพงานต่างๆ ด้วย

วันพุธที่ 28 กรกฎาคม 2553

วันนี้ได้ทำงานเกี่ยวเรื่องของสกู๊ปข่าว แก้ไขเพื่อเตรียมลงเสียงในสกู๊ปของแต่ละคน และอ่านออกเสียงให้พี่ผู้ประกาศฟังเป็นการทดสอบเสียงของแต่ละคน จากนั้นก็มีข่าวเข้ามาเกี่ยวกับการฟ้องร้องของผู้ปกครองที่บุตรไปซื้อลูกอมที่คาดว่าน่าจะเป็นอันตรายเกี่ยวกับสารเคมี เพื่อให้ทางสาธารณสุขตรวจสอบ แต่ก็เหมือนกับการไปตรวจสอบเฉยๆ จึงเป็นข่าวที่ไม่น่าสนใจจึงได้ไม่ทำข่าวนี้ก็กลับมาที่ห้องสำนักงาน

วันเสาร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

วันศกุร์ที่ 23 กรกฎาคม 2553

วันนี้มีงานเยอะมาก จึงต้องแบ่งทีมกันไป วันนี้มีงานที่ศาลากลาง ซ้อมการก่อจลาจลของผู้ชุมนุม ก็ให้เด็กมาเป็นผู้ชุมนุมแล้วก็ให้ตำรวจเตรียมความพร้อมต่างๆ เป็นการซ้อมใหญ่ค่ะ จากนั้นก็มาที่คณะแพทยศาสตร์เพื่อมาถ่ายทำห้องวิจัยในโครงการละว้าที่ยังค้างกันอยู่ ถ่ายทำการทำ LAB ของเค้าแล้วก็ถามข้อมูลต่างๆ เพื่อนำไปประกอบการทำสกู๊ปของพวกเรานั่นแหละค่ะ จากนั้นก็กลับมาที่ห้องสำนักงานแล้วก็ช่วยพี่ๆ เค้าทำงานกัน วันนี้ในตอนเย็นมีงานเลี้ยงส่งพี่ๆ ที่จะไปทำงานที่อื่นและไปต่างประเทศ และเลี้ยงต้อนรับพี่ๆ ที่เข้ามาทำงานใหม่ด้วย ประมาณ 5 คน พวกเรานิสิตฝึกงานก็ได้อยู่ร่วมงานด้วย สนุกสนานร้องคาราโอเกะกันซะ... และก็กลับบ้านตอนดึกนิดนิงค่ะ พี่ที่สำนักงานมาส่งที่บ้านเลย ขอบคุณนะคะ

วันพฤหัสบดีที่ 22 กรกฎาคม 2553



วันนี้ไม่ได้ไปไหนค่ะถึงคิวดูแลแขกที่มาเข้าร่วมกันบันทึกเทปค่ะ แล้วก็วันนี้......!!!!!!!!!!!!!!!! มีดารามาที่คลื่นวิทยุที่นี่ค่ะ ใครหรอคะ......... พวกเหล่า The Star ค่ะ มีริท เกตุ ไอซ์ และก็.... มาออกรายการวิทยุเราก็ได้ไปอ้อมแอ้มด้วยเนียนๆ ค่ะ ขอถ่ายรูปตามประสาว่าดารามาก็ต้องถ่ายรูปด้วย และก็ขึ้นมาที่ทำงานเก็บของกลับบ้าน อิอิ

วันพุธที่ 21 กรกฎาคม 2553

วันนี้ไปทำข่าวที่ตำบลโนนสะอาด อำเภอแวงใหญ่ นู่นๆๆๆๆๆๆๆ ไกลมากๆ ขอบอก ไปทำงานเกี่ยวกับการหาฐานขุดเจาะน้ำมันในจังหวัดขอนแก่น ซึ่งทาง ปตท. เจ้าของโครงการนั้นคาดว่าน่าจะมีน้ำมันในใต้ชั้นหินในแถบนี้จึงร่วมกับ ส.ป.ก. ของจังหวัด เพื่อทำการขุดเจาะค่ะ ก็มีการมอบพื้นที่ให้ชาวบ้านใช้เป็นแหล่งทำมาหากิน ทำการเกษตรเพื่อเลี้ยงชีพด้วย จากนั้นก็ไปรับประทานอาหารกันแถวๆ ที่อำเภอชนบทแล้วก็กลับมาที่สำนักงานเขียนข่าวเรียบร้อยค่ะ อัพข่าวส่งกรุงเทพและรอเพื่อนๆ ที่ไปดูแลแขกแล้วก็กลับบ้าน

วันอังคารที่ 20 กรกฎาคม 2553

วันนี้ไม่มีข่าวอะไร นักศึกษาช่วยกันดูแลแขกที่มาทำการบันทึกเทปงานวันแม่ เพื่อออกอากาศในวันแม่เป็นการเตรียมความพร้อมค่ะ ก็ช่วยกันทั้งบุคลากรและนักศึกษา ซึ่งงานการบันทึกเทปมีทั้งหมด 4 วันค่ะ ก็จะช่วยกันเปลี่ยนกันไปดูแลแขกค่ะ

วันจันทร์ที่ 19 กรกฎาคม 2553

วันนี้ไปงานเกี่ยวกับโครงการของ สสส. ที่เค้าจัดขึ้นเพื่อให้เด็กๆ วัยรุ่นกล้าแสดงออกมีความประสบการณ์ที่ดีต่างๆ เป็นงานแถลงข่าวที่จะจัดขึ้นในอนาคต นัดเรา 10 โมงค่ะ แต่ว่าได้ถ่ายทำจริง ก็ 11.30 นู่นแหละ ทางเจ้าของงานยังไม่พร้อมอ่ะค่ะ ก็มีการเอานักเรียนมาโชว์การแสดงทั้งการเล่นโปงลาง การเอาคนตาบอดมาเล่นกีตาร์และร้องเพลงให้ฟัง (เพราะมาก) และก็มีนักเรียนมาฟ้อนรำให้ดู จากนั้นก็เป็นการแถลงข่าวของกิจกรรมเล่นร้อง รำฟ้อน ญ้อนยิ้ม อิ่มสุขค่ะ แล้วก็กลับมาเขียนข่าวที่สำนักงานเรียบร้อย อัพข่าวด้วย เรียบร้อยค่ะงานวันนี้...

วันศุกร์ที่ 16 กรกฎาคม 2553

วันนี้สำนักงานเงียบเหงามากเลยเพราะว่าพี่ๆ ห้องข่าวไปทำรายการอีสานวันนี้สัญจรกันหมดเลย ก็มีแต่นิสิตคอยรับงานอยู่ที่สำนักงาน ไม่ค่อยได้ทำอะไรมีอัพข่าว ส่งข่าวรับแฟกซ์เกี่ยวกับข่าวที่จะต้องไปในวันต่อไปเเค่นั้น พอตอนเย็นพี่ๆ กลับมาจากการไปทำรายการก็พูดคุยกันนิดหน่อยแล้วก็แยกย้ายกันกลับค่ะ

วันพฤหัสบดีที่ 15 กรกฎาคม 2553



วันนี้ได้ไปทำงานที่โรงแรมโฆษะ งานเกี่ยวกับสัมมนาธงไตรรงค์ ธำรงไทย เป็นงานที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับธงชาติ สอนเกี่ยวกับปฏิบัติกับธงชาติ เป็นงานค่อนข้างใหญ่มาก มีหัวหน้าผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีมาเป็นประธานในการเปิดงานด้วย และก็ได้สัมภาษณ์ท่านด้วยเกี่ยวกับการจัดงานในครั้งนี้ ทั้งการเน้นการปฏิบัติเพื่อเป็นแบบอย่างการปฏิบัติที่ถูกต้องต่อไปในอนาคต ขนาดลักษณะต่างๆ ของธงชาติ และก็กลับมาที่สำนักงานเพื่อเร่งเขียนข่าวเพราะว่าวันนี้พี่ๆ ฝ่ายข่าวทั้งหมดเค้าจะต้องไปต่างจังหวัด เพื่อไปถ่ายทำรายการนอกสถานที่ ก็เลยต้องรีบให้ บก.ตรวจให้เรียบร้อยแล้วก็ส่งเข้ากรุงเทพ จากนั้นก็นั่งอยู่ในห้องอัพข่าวบ้านคุยกันบ้างแล้วก็มีทางนักข่าวหนังสือพิมพ์เข้ามาเพราะมีข่าวด่วน เกี่ยวกับการปล้นร้านทองที่จังหวัดอุดรแล้วคนร้ายหนีเข้ามาที่จังหวัดขอนแก่น เราก็เลยได้ไปด้วย ไปตามคนร้ายเกือบถึงมหาสารคามจากนั้นก็ไล่ล่าคนร้ายมาถึงตัวเมืองจังหวัดขอนแก่น รถคนร้ายพังไม่เป็นท่าเลย (มันส์สุดๆ) จากนั้นก็ไปสอบถามประชาชนผู้เห็นเหตุการณ์รอบๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น มีฮอล์บินกดดันอยู่บนฟ้าตลอดเวลาเลยค่ะ จากนั้นก็มีการจับกุมกันไปเรื่อย แต่ชาวบ้านแถวนั้นบอกว่าไม่ใช่คนร้ายค่ะ และในที่สุดก็สามารถจับคนร้ายได้ 2 คนเป็นผู้ชาย ส่วนผู้หญิงนั้นสามารถหนีไปได้ เจ้าหน้าที่กำลังตามตัวอยู่ สรุปคนร้ายปล้นทองได้ประมาณ 600 บาทจากร้านทองจังหวัดอุดร และก็ตอนที่ตำรวจจับคนร้ายได้มีคนกันออกมาด้วยบอกไม่ให้เข้าไปก็แต่งชุดนิสิตไง สุดท้ายก็บอกเค้าว่าเป็นนักข่าวขอเข้าไปเอาข้อมูลกับคนร้ายหน่อยได้มั๊ย คุณตำรวจก็ให้เข้าไปจดข้อมูลค่ะ พอจับเรียบร้อยก็กลับมาที่สำนักงานรีบส่งข่าวแบบสุดๆ เพราะว่าจะต้องรีบมากให้ทันก่อนที่ช่องอื่นจะส่ง มันเป็นการแข่งขันกันเองของนักข่าวค่ะ และพี่ๆ ก็ได้ไปทำงาน (เที่ยว) ที่ต่างจังหวัดพวกเรานิสิตฝึกงานก็กลับบ้านกันตามเดิม...

วันพุธที่ 14 กรกฎาคม 2553

วันนี้ได้พิมพ์งานเกี่ยวกับการจับผู้ต้องหาคดีเผาศาลากลางได้ เพราะทางส่วนกลางของจังหวัดขอนแก่นส่งสารข่าวเข้ามาให้ก็ต้องนำสารข่าวนั้นส่งเข้าทาง IOC และ FTP เพื่อให้ทางกรุงเทพนำข่าวไปออกได้ทันเวลาค่ะ และก็อัพข่าวตามปกติ

วันอังคารที่ 13 กรกฎาคม 2553



วันนี้ได้ไปทำงานเยอะมากเลยค่ะ ตอนเช้าก็ไปงานประชุมเกี่ยวกับการทำโครงการชลประทานระบบท่อ ที่แถวๆ เขื่อนอุบลรัตน์เพราะว่าชาวบ้านในแถบนั้นมีปัญหามากในเรื่องของการใช้น้ำ ไม่สามารถใช้น้ำแถบนั้นทำการเกษตรได้ ทางรัฐบาลจึงเสนอแนวทางการช่วยเหลือให้แก่ชาวบ้านและก็นำผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมประชุมงานประชุมนี้จัดขึ้นที่ศาลากลางจังหวัดขอนแก่นค่ะ พอกลับมาก็ได้ไปที่ห้างเซ็นทรัลพลาซ่าวันนี้มีงานเกี่ยวกับรถยนต์ค่ะ มีดารามากมายเข้าร่วมงานนี้ ทั้งแมท ภีรนีย์ นางเอกหวานใจนายจอมหยิ่งแล้วก็แซมมี่ ปัณฑิตานางเอกของช่อง 7 มาเดินแบบโชว์รถยนต์คันหรูด้วยค่ะ จากนั้นก็มีก้องปิยะเป็นพิธีกร และมีเหล่านักร้อง KOTIC มาเป็นนักร้องในวันนี้โดยงานมีหลายวัน ในแต่ละวันก็มีนักร้องเข้าร่วมสลับผลัดเปลี่ยนกันไป แต่ส่วนมากจะเป็นทางค่ายของ kamikaze ค่ะ และได้สัมภาษณ์ตัวแทนผู้ประกอบการค้ารถยนต์จังหวัดขอนแก่นเกี่ยวกับผลกระทบจากการชุมนุมต่อการค้าขายรถยนต์ จากนั้นก็กลับมาที่สำนักงานและก็รอเขียนข่าวส่งทางกรุงเทพ

วันจันทร์ที่ 12 กรกฎาคม 2553

วันนี้ได้ไปทำข่าวที่คณะแพทยศาสตร์ ตรงแถวโรงพยาบาลศรีนครินทร์ไปกับพี่อู๋ (ช่างภาพ) แล้วก็พี่ท๊อป (นักข่าวใหม่) ไปในงานการเตรียมความพร้อมในวันศรีนครินทร์ที่จะมีแขกเข้ามาร่วมงานเป็นพวกคนที่มาบริจาคช่วยเหลือต่างๆ เป็นการประชุมเตรียมความพร้อมค่ะ สมาชิกของสถานีเราก็ไปเยอะเพราะว่าต้องใช้การถ่ายทอดสดจากสถานีเราค่ะก็เลยเจอคนรู้จักเยอะนิดนึง แล้วก็ได้ไปสัมภาษณ์ประธานของการประชุมให้ประชาสัมพันธ์งานนิดหน่อยกลับมาก็เขียนข่าวส่งงานค่ะ

วันศุกร์ที่ 9 กรกฎาคม 2553

วันนี้ไปทำสกู๊ปข่าวโครงการละว้าที่แถวอำเภอบ้านไผ่ อำเภอมัญจา แล้วก็อำเภอชนบท ออกจากที่ทำงานประมาณเก้าโมงเช้า กว่าจะไปถึงสถานที่ที่ทางโครงการวิจัยออกตรวจอัลตร้าซาวน์ก็เกือบเที่ยงแล้ว ก็ได้ไปสัมภาษณ์คนที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัยในการทำสกู๊ปในตอนแต่ละคน เพื่อนๆ แต่ละคนก็แยกย้ายกันหาข้อมูลเกี่ยวกับตอนของตัวเองแล้วก็ช่วยกันสัมภาษณ์ (เพราะว่าเป็นมือใหม่ก็เลยต้องช่วยกัน...) สัมภาษณ์เยอะมากเลยที่นี่ หลังจากนั้นก็รอท่าน ดร.บรรจบ ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการที่จะมาลงพื้นที่แต่ก็มีปัญหานิดหน่อยก็เลยมาช้าๆๆๆ มาก พวกเราก็เลยตกลงว่าจะไปกินข้าวกันก่อนเพราะว่าหิวแระเดี๋ยวไม่มีแรงทำงาน พอกินข้าวเสร็จเรียบร้อยก็กลับมาตามหา ดร.บรรจบต่อ ทางผ่านก็มีวิวที่สามารถจะนำไปใช้ในสกู๊ปงานได้ก็แวะลงไปถ่าย เจออะไรก็แวะไปหมด อิอิ แล้วก็ไปเจอดร.บรรจบที่บ้านของผู้ใหญ่บ้านค่ะ เค้ากำลังสาธิตทำก้อยปลาซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคพยาธิใบไม้ตับค่ะ ก็สาธิตไปแล้วก็สัมภาษณ์ผู้ใหญ่บ้านไป หลังจากนั้นก็ไปอีกหลายที่ก็ตามเค้าไปแล้วก็ในที่สุดก็ได้สัมภาษณ์ ดร.บรรจบ สักทีเฮ้อ... พอสัมภาษณ์เรียบร้อยก็ตามไปดูการทำส้มปลา ปลาร้าต่างๆ แล้วก็ได้เวลากลับแล้วค่ะ เย็นย่ำแล้ว พี่ช่างภาพก็สุดแสนจะเหนื่อยล้า (เกรงใจเหมือนกันนะเนี่ย) พอกลับมาก็เลยเวลาเลิกงานไปแล้วก็ได้แยกย้ายกันกลับบ้านค่ะ

วันพฤหัสบดีที่ 8 กรกฎาคม 2553

วันนี้ได้ไปทำข่าวที่สถานีตำรวจภูธรภาค 4 เรื่องปั้มปลอดน้ำมันปลอมปน มีนายตำรวจและผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการค้าขายน้ำมันบนถนนมิตรภาพในขอนแก่นมาเข้าร่วมประชุมมากมาย แล้วก็มีก๋วยเตี๋ยวฟรีไว้บริการด้วยแหละ จากนั้นก็กลับมาเขียนข่าว ส่งเรียบร้อย

วันพุธที่ 7 กรกฎาคม 2553

วันนี้ตอนเช้าเค้ามาก็ได้ไปทำข่าวตอนเก้าโมง ขอเพื่อนไปเพราะว่าเมื่อวานไม่ได้ไปไหนเลย ได้ไปทำที่โรงแรมแก่นอินทร์ โรงแรมในเมือง ข่าวเกี่ยวกับการอบรมการให้บริการแก่ประชาชนของข้าราชการ แล้วก็ไปทำธุระต่างๆ กับพวกพี่ๆ ที่ออกมาด้วยกัน แล้วก็กินข้าวข้างนอกกับพี่ๆ เค้าเลย กลับไปที่สำนักงานเพื่อนๆ ก็ไปกินข้าวกันหมดเหลือเราคนเดียว ก็นั่งเขียนข่าวในห้องสำนักงานนั่นแหละค่ะ แล้วก็มีข่าวเข้ามาว่าต้องขึ้นไปถ่ายภาพบนเฮริคอปเตอร์ก็เลยเป็นข่าวด่วน เพราะทางศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงประสานงานกับพี่ช่างภาพโดยตรงก็เลยต้องออกไปกับพี่เค้าอีกเพราะว่าอยู่คนเดียว... อิอิ (แต่พี่เค้าบอกว่าจะไม่ได้ขึ้นหรอกนะ ได้รออยู่ข้างล่าง เพราะขึ้นได้แค่ 5 คนเท่านั้นเครื่องลำนี้มันเล็ก ก็ออกไปพอจะออกจากประตูสำนักงานก็เจอเพื่อนพี่เค้าเลยให้เรียกไปอีกหนึ่งคน ได้เพื่อนมาอีกหนึ่งคนเป็นเพื่อนนั่งรอพี่เค้าด้วยกัน จากนั้นก็ไปที่สนามบินขอนแก่น (ที่คุ้นเคยเป็นอย่างดี มาบ่อยมากๆๆๆ) ก็คุยกับพี่ๆ ที่ทำงานในสนามบินนั้น แล้วพี่คนขับเครื่องบินก็มาชวนไปขึ้นเครื่องบิน (ดีใจล่ะซิทีนี้... อิอิ) เสร็จโจร ก็ไปกับพี่เค้าทันทีไม่หือรือเลย แล้วก็ขึ้นไปบนเครื่อง พี่ๆ ที่ดูเลยบนเครื่องก็บอกวิธีอยู่บนเครื่อง ต้องเคี้ยวหมากฝรั่งเพื่อลดการหูอื้อลงเพราะข้างบนนั้นความกดอากาศมันแตกต่างกัน ก็เชื่อฟังเป็นอย่างดีแต่ไม่มีหมากฝรั่ง ไม่มีลูกอม ก็เอาของพี่ๆ เค้านั่นแหละ อิอิ ฟรีหมดทุกอย่าง ขึ้นไปแรกๆ ก็กลัวหน่อยๆ ค่ะ พออยู่สักพัก ชินเริ่มถ่ายรูป แต่ว่าการทำงานพี่เค้าเป็นระบบดีค่ะ มีการส่งสัญญาณกันไปมาแต่ก็ไม่ลืมมาเล่นกับเรานิสิตฝึกงานสองคนที่ขึ้นไปทำไมก็ไม่รู้... เฮ้อ รบกวนพี่เค้าเฉยๆ ได้ถ่ายรูปเยอะแยะมากมาย แต่ก็ไม่สามารถเห็นหน้าเต็มได้ ถ้าอยากถ่ายกับวิวข้างนอกสามารถมองเห็นได้ครึ่งหน้าเท่านั้น แล้วก็ที่สำคัญ ถ้ามาหน้าดำ เพราะบนนั้นไม่มีไฟ จะใช้แฟลชก็เกรงใจพี่เค้า พอจะลงนี่แหละ เหมือนจะเป็นลมเพราะความกดอากาศมันเปลี่ยนอีกรอบ จะอาเจียนลงมาแล้วรู้สึกไม่ค่อยสบายตัวเท่าไหร่ ลงมาก็อะไรล่ะ คิดเพียงว่าจะบอกว่าพี่ปิ๊กยังไง (พี่ช่างภาพ) เพราะว่าขึ้นไปไม่ได้บอก บอกแต่คนทั้งออฟฟิตเลย เค้ารู้ทั้งสำนักงานของศูนย์เลยว่าพวกหนูขึ้นบิน (คนดัง... อิอิ) แต่พอเฉยก็ตะล่อมไปเรื่อยๆ ทำเนียนๆ ไปค่ะ แล้วก็ไปสัมภาษณ์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงตามที่พี่นาง (บก.) ได้สั่งให้ไปสัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องของผลการปฏิบัติงานในครั้งนี้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง แล้วก็อยู่คุยกับท่าน ผอ.ประสพ พรหมมาครู่หนึ่งแล้วก็กลับค่ะ จากนั้นกลับมาก็ถึงเวลาเลิกงาน ข่าวเลยกลับเอาไปเขียนที่ห้อง (อุไรวรรณเป็นคนเขียน อิอิ... สบาย) แล้วก็กลับบ้านนอน

วันอัคารที่่ 6 กรกฎาคม 2553

วันนี้ไม่ได้ไปไหนเลย อยู่ที่สำนักงานช่วยงานสำนักงานและก็สนุกสนานกับการแกะเทปที่เป็นการสัมภาษณ์คนที่เป็นประธานกลุ่มในโครงการเศรษฐกิจพอเพียงที่ จ.เลย เค้าพูดสำเนียงเลย ทำให้แกะเทปยากมากๆ ฟังไปก็หัวเราะไป ช่วงกันฟังกับเพื่อน แล้วก็พิมพ์สคริปวิทยุกระจายเสียงเพื่อให้บก. ส่งให้ทาง FM ออกอากาศ

วันจันทร์ที่ 5 กรกฎาคม 2553

ไปทำข่าวเรื่องการอบรมเตรียมพร้อม.... ที่บ้านไผ่ เจอคนญี่ปุ่น คุยกับเค้านิดนึงแล้วก็ไปบ้านละว้าเพื่อดูสถานที่ที่จะไปทำสกู๊ป เพราะเป็นทางผ่านของการกลับมาสำนักงาน และระหว่างทางก็มีรีสอร์ตของคนที่รู้จักกับพี่ทน (ช่างภาพ) สวยมากๆ แต่ยังไม่เปิดให้บริการเต็มรูปแบบนะ ให้บริการบ้าง กลับมาให้เพื่อนเขียนข่าว... อิอิ

วันเสาร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

วันศุกร์ที่ 2 กรกฎาคม 2553

วันนี้ตั้งแต่เช้าได้ไปสัมภาษณ์ท่านอาจารย์บรรจบ ศรีภา อาจารย์ที่ทำเกี่ยวกับโครงการวิจัยเรื่องพยาธิใบได้ในตับ ก็เข้าไปสัมภาษณ์นัดตอน 9 โมงเช้าก็ไปลงที่ รพ.ศรีนครินทร์ แล้วก็เดินหาๆๆๆๆๆๆ หลงค่ะ T_T ก็เลยได้โทรหาอาจารย์แล้วก็ให้คนของอาจารย์มารับ แล้วก็ได้เข้าพบค่ะ พูดถึงเรื่องเกี่ยวกับโครงการแล้วก็กิจกรรมที่เราจะไปถ่ายทำกัน จากนั้นอาจารย์ก็พาไปดูห้องแลป แล้วก็กลับมาที่สำนักงาน เพื่อปรึกษากับพี่นางถึเรื่องที่ได้ไปคุยมาแล้วก็ได้รับคำติเตียนมาเกี่ยวกับผลงานของเราว่าให้เอาเรื่องนั้นเรื่องนี้ และก็ควรจะไปในแนวทางไหนดีกว่า ก็กลับมาแก้ไข คิดเนื้อหาของสกู๊ปเรา แล้วระหว่างนั้นพี่ที่ทำงานเกี่ยวกับสกู๊ปเศรษฐกิจพอเพียงก็กำลังตัดงานอยู่เราก็ไปนั่งดูกระบวนการทำงานทั้งเบื้องหลังแล้วก็หลังจากที่ตัดเรียบร้อยแล้วว่ามันป็นยังไง ก็ได้ความรู้มานิดๆ หน่อย ก็ฟูมฟักลักจำเอาค่ะ แล้วตอนช่วงบ่ายอุไรวรรณกะโชติรสได้ไปทำข่าวเจอดาราด้วยค่ะ (อิจฉาอีกแล้วอ่ะ)

วันพฤหัสบดีที่ 1 กรกฎาคม 2553

ครบ 1 เดือนแล้วค่ะ วันนี้ตอนเช้าก็ทำงานในสำนักงานแล้วตอนเที่ยงได้ออกไปที่บ้าน ซองแมว (ซองแมวเป็นชื่อต้นไม้นะ แถวนั้นมีต้นนี้เยอะก็เลยตั้งชื่อนี้) ก็ทำข่าวเกี่ยวกับการพัฒนาบึงซองแมวให้มีสวนสาธารณะให้ดีขึ้น ให้สวยงามนั่นเองปรับภูมิทัศน์ให้สวยงามค่ะ ก็มีนักเรียนในโรงเรียนของแถวนั้นไปร่วมงานแล้วก็มีมหารเกณฑ์ไปต้อนรับบุคคลสำคัญที่จะมาเปิดงาน แล้วก็กลับมาเขียนข่าว จากนั้นเพื่อนก็ได้ไปทำข่าวที่เขาสวนกวางค่ะ (อิจฉา... อยากไปจัง)

วันพุธที่ 30 มิถุนายน 2553

วันนี้ได้อยู่ช่วยงานแค่ในสำนักงานไม่มีอะไรเป็นพิเศษ เพราะว่าวันนี้มีข่าวน้อยก็เลยไม่ได้ออกไปไหน ทำงานแกะเทปเหมือนๆ เคยแล้วก็ส่งงานให้บก. แล้วก็อัพข่าวขึ้น IOC เพื่อให้ทางศูนย์ใหญ่เลือกข่าวไปออก แล้วก็ช่วงบ่ายๆ พี่นาง บก. ของเราได้เสนอให้พวกเราทำสกู๊ปเกี่ยวกับโรคพยาธิใบไม้ในตัวที่มีการวิจัยอยู่ใน มข. ให้เราทำเป็นสกู๊ป 5 ตอน ก็แบ่งกันแล้วก็ปวดหัวกันค่ะ

วันอังคารที่ 29 มิถุนายน 2553

วันนี้ได้ออกไปทำข่าวที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น ตรงหน้าคณะศึกษาศาสตร์ เป็นกิจกรรมเกี่ยวกับวันวิทยาศาสตร์ เอาสิ่งของที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์มาตั้งโชว์เป็นนิทรรศการแล้วก็ให้เด็กๆ ที่สนใจมาเล่นมาชมกันที่นี่ค่ะ แล้วกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นอีกอย่างก็คือ โดมดูดาวเคลื่อนที่ค่า จริงๆ อยากเข้าไปดู แต่ด้วยการทำข่าวนั้นเร่งรีบจึงไม่ได้เข้าไปเลย เพราะต้องรีบกลับมาเขียนข่าวแล้วก็ส่งเช่นเคย

วันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน 2553

วันนี้ทำงานแกะเทป และพิมพ์บทวิทยุจากที่พี่บก ได้เอางานที่เราแกะแล้วไปเขียนสคริปนี้ออกมาก็เอามาให้พิมพ์อีกทีเพื่อส่งไปให้ทางวิทยุออกอากาศ มีงานอย่างนี้มาเรื่อยๆ ค่ะ เพราะว่าโครงการของสกู๊ปนี้มี 5 ตอนแล้วก็ต้องเขียนทั้ง 5 ตอนก็เลยทำงานยาวมาเลย ยังเหลืออีก 3 ตอนค่ะ สู้ๆ

วันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน 2553

วันนี้ออกทำข่าวกับพี่กบ ช่างภาพค่ะ ไปที่โรงแรมขวัญมอ มีการจัดประชุมเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของสำนักงานเราเองค่ะ คือสำนักงานกรมประชาสัมพันธ์ สปข.1 ทั้ง 10 จังหวัด มาเข้าร่วมประชุมที่โรงแรมนี้ (อยู่ในมข. นะคะ ไม่ได้ไกลหรอก) ก็ไปทำข่าวด้วย เสิรฟน้ำด้วยเนื่องจากเป็นคนรู้จักกันก็เลยได้รับ 2 จ๊อบ ในงานนี้มีแต่ผู้บริหารแล้วก็เจ้าหน้าที่ที่ทำงานในตึกเดียวกันนี่แหละค่ะที่ไปประชุม แล้วก็กลับมาเขียนข่าวส่งค่ะ

วันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน 2553

วันนี้ตั้งแต่เช้าพี่ บก. เกี่ยวกับงานถ่ายทำสกู๊ปนอกสถานที่ก็เอางานแกะเทปมาให้ (เหมือนว่าจะเป็นงานประจำแล้วล่ะค่ะ) ทำ วันนี้แกะทั้งวัน ระหว่างพักก็อัพข่าวขึ้น IOC บ้าง แล้วแต่ว่าใครว่างก็อัพขึ้นให้เรียบร้อย

วันพุธที่ 23 มิถุนายน 2553

วันนี้ได้ไปทำข่าวที่โรงแรมโฆษะค่ะ ได้ทำข่าวเกี่ยวกับการร่างพระราชบัญญัติผังเมืองของจังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเข้าใจยากอ่ะนะ แล้วก็ไปทำเกี่ยวกับงานประชุมเกี่ยวกับความต้องการด้านวิทยาศาสตร์ของคนอีสานที่โรงแรมโฆษะเหมือนกัน แล้วจากนั้นก็มีรายงานเข้ามาให้ไปทำข่าวที่ศาลากลาง มีผู้ต้องหามามอบตัว เกี่ยวกับเรื่องการเผาศาลากลางเพราะทางเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับ ก็ไปทำข่าวกับพี่ๆ นักข่าวช่องอื่นๆ สื่อมวลชนอื่นๆ เยอะมากเลย ทั้งช่อง 3 5 7 9 แล้วก็สำนักข่าวท้องถิ่นต่างๆ ข่าวหนังสือพิมพ์ก็มาค่ะ จากนั้นก็ไปกินข้าวกับพี่ๆ (พี่เค้าเลี้ยง...อิอิ) อร่อย จากนั้นก็กลับมาที่ทำงานแล้วก็เขียนข่าวเช่นเคย....

วันอังคารที่ 22 มิถุนายน 2553

วันนี้ได้ไปที่ศาลากลางจังหวัดขอนแก่นกับพี่ช่างภาพ พี่สุทนและก็ปุ๋ย (ดาราณี) ได้ไปทำข่าวเรื่องของการประชุมหารือเกี่ยวกับการรักษาสิ่งแวดล้อม ป้องกันการตัดไม้ทำลายป่าแล้วก็ได้ไปที่ศูนย์ฝึกตำรวจภูธรภาค 4 เค้ามีการฝึกอบรมปฏิบัติการป้องกันควบคุมฝูงชนให้แก่ตำรวจภายในสังกัด และได้ไปจับปืนด้วย พี่ๆ ตำรวจที่คอยต้อนรับเค้าให้หยิบจับปืนได้ ปลอดภัยค่ะ แล้วก็ได้ไปทำข่าวที่ตำรวจ สภอ. ขอนแก่นด้วย มีรายงานเกี่ยวกับการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดและผู้เสพได้ เค้ามีการแถลงข่าวก็เลยได้ไปทำข่าวที่นั่น ตื่นเต้นด้วย เห็นยาบ้าจริงๆ เลย แล้วก็ได้สอบถามผู้ต้องหาต่างๆ นานา จากนั้นก็กลับมาที่ทำงานแล้วก็ลงมือเขียนข่าวให้ บก. ตรวจ เรียบร้อยก็ส่งเข้าศูนย์ข่าวกลางทางคอมพิวเตอร์ค่ะ

วันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน 2553

วันนี้ไม่ได้ออกไปไหน มีการสรุปข่าวของนายกที่พูดในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยเกี่ยวกับประเด็นที่ทางศูนย์ใหญ่ได้ส่งมาให้กับศูนย์ขอนแก่นค่ะ พี่นางเป็นคนเลือกหัวข้อให้แล้วก็นำมาสรุปเหมือนกับทุกๆ สัปดาห์ ก็สรุปแล้วก็ทำงานทั่วไป ได้แกะเทปงานเกี่ยวกับสกู๊ปของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อให้พี่อ๊อด (บก. อีกคน) นำไปเขียนบทวิทยุ พิมพ์สคริปคำพูดเพื่อที่จะลงเสียงใส่ไปในตัวสกู๊ปนี้ด้วยค่ะ

วันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน 2553

วันนี้แต่เช้าก็เอาข่าวมาส่งพี่นาง บก. เรื่องฝนหลวงที่ค้างมาตั้งแต่เมื่อวาน แล้วก็ออกไปทำข่าวกับพี่อ้อย ไปที่โรงแรมเค้าจัดอบรมให้กับครูเกี่ยวกับประชาธิปไตย การไปเลือกตั้งใช้สิทธิออกเสียงค่ะ จากนั้นก็ไปที่ศูนย์มูลนิธิ เพื่อประชาสัมพันธ์ช่วยงานของกลุ่มผู้สูงอายุ แล้วกลับมาก็เขียนข่าว จากนั้นก็ช่วยงานสำนักงานตามปกติ แล้วก็เรียนรู้การตัดต่องานจากพี่ๆ ที่เค้าเอางานมาตัดที่เครื่องตัดค่ะ

วันพฤหัสบดีที่ 17 มิถุนายน 2553

วันนี้ได้ออกพื้นที่ไปที่สนามบินขอนแก่นอีกครั้ง แล้วคาดว่าอาจจะได้ขึ้นเครื่องบินเพื่อไปดูเค้าโปรยฝนหลวงด้วย พากันตื่นเต้นดีใจ ไปถึงก็พบเจอกับพี่นักข่าวหลายช่องทั้ง ช่อง 7 ช่อง 3 แล้วก็นักข่าวท้องถิ่นอีกมากมาย วันนี้มีบุคคลจากทางบริษัทอะไรสักอย่างมามอบรถเครนยกของเพื่อช่วยในการยกสารขึ้นเครื่องบิน แล้วก็สัมภาษณ์กันตามปกติ พอสัมภาษณ์เสร็จเรียบร้อยเครื่องบินที่ขึ้นไปโปรยสารฝนหลวงก็ลงมา เพื่อเติมสารแล้วก็ขึ้นบินใหม่ จนเครื่องบินขึ้นไปหมดแล้วก็ได้สัมภาษณ์กับผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงเกี่ยวกับปัญหาแล้วก็อุปสรรคในการทำฝนหลวงก็ช่วงนี้มีบุญบั้งไฟ อุปสรรคก็เห็นจะเป็นบั้งไฟนั่นแหละ ในที่สุดวันนี้ก็ไม่ได้ขึ้นเครื่องบินอีกตามเคย แห้วตามเคย แล้วก็กลับมาที่ทำงานก็หมดเวลางาน ก็เลยต้องกลับมาเขียนข่าวที่บ้านพรุ่งนี้เอามาส่งพี่ บก. ค่ะ

วันอังคารที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2553

วันพุธที่ 16 มิถุนายน 2553



วันนี้ได้ไปที่เขื่อนอุบลรัตน์ โดยมีตัวแทนพระเจ้าอยู่หัวทรงเสด็จมาตรวจเยี่ยมถึงปัญหาของน้ำภายในเขื่อน และการให้นโยบายแก่ผู้ปฏิบัติงาน เป็นการประชุมสัมมนากันในห้องประชุมที่เขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น จากนั้นก็ได้ไปที่สนามบินจังหวัดขอนแก่น เพื่อไปสัมภาษณ์ท่าน ผอ.สำนัก............... และเก็บภาพการประชุมภายในห้องประชุมของสนามบิน และออกดูเครื่องบินที่จะขึ้นไปทำฝนหลวงในช่วงประมาณบ่ายสามบ่ายสี่ ถามถึงขั้นตอนวิธีการกระบวนการทำฝนหลวงแล้วก็ข้อสงสัยต่างๆ ที่อยากรู้เกี่ยวกับทำฝนหลวงกับพี่ๆ นักบินที่จะออกไปทำฝนหลวงแล้วก็กลับที่สำนักงาน เขียนข่าว แล้วก็กลับบ้าน

วันอังคารที่ 15 มิถุนายน 2553




วันนี้ออกไปทำข่าวที่ สนามบินเกี่ยวกับการทำฝนหลวงพิเศษเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง ซึ่งเกิดมากจากการที่น้ำในเขื่อนสำคัญๆ ใน 5 จังหวัดมีปริมาณเหลือน้อย และก็ไปทำข่าวที่โรงรับจำนำเพราะช่วงนี้เป็นช่วงฟุตบอลโลก แต่วันนี้เป็นช่วงเริ่มของการแข่งขันฟุตบอลจึงยังคงไม่มีการนำสิ่งของมาจำนำมากนัก และผู้ที่จะมาสัมภาษณ์ไม่อยู่จึงต้องมาให้อาทิตย์หน้าเพราะเป็นช่วงที่จะเริ่มมีการแข่งขันฟุตบอลอย่างเข้มข้นขึ้น คิดว่าน่าจะมีรายงานเกี่ยวกับการนำสิ่งของเข้ามาจำนำมากขึ้น

วันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2553

วันจันทร์ที่ 14 มิถุนายน 2553



ไปประชุมเกี่ยวกับสื่อมวลชนกับอาเซียนที่ทางกรมประชาสัมพันธ์เป็นผู้จัดโดยมีนาย โสดาศรีเป็นวิทยากรทรงคุณวุฒิในการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ 10 ประเทศอาเซียน และได้ไปทำข่าวที่ตลาดบางลำภู เกี่ยวกับการบริจาคเลือดให้แก่สภากาชาด เพื่อเตรียมพร้อมในสถานการณ์ต่างๆ โดยมีผู้สนใจโครงการสร้างมากมาย

วันพฤหัสบดีที่ 10 มิถุนายน 2553

วันนี้มีงานตั้งแต่ 7.30 น. แต่นักศึกษาฝึกงานไม่ได้ไปหรอกค่ะ ให้พี่ๆ ไปกัน วันนี้มีงานประมาณ 6 ที่ สถานที่ที่นุชได้ไปทำข่าววันนี้ก็คือมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ไปเข้าประชุมเกี่ยวกับเรื่องการทำงานวิจัยของบุคลากรในมหาวิทยาลัย แล้วนำมาเผยแพร่ต่อสื่อเพื่อให้สื่อออกประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับโครงการที่มหาวิทยาลัยได้ทำการดำเนินการวิจัยนั้นมา แล้วนี่ก็ถือเป็นครั้งแรกที่ได้ไปนั่งโต๊ะประชุมร่วมกับคนสำคัญๆ ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น และเมื่อผู้ทำการวิจัยอธิบายบรรยายเรียบร้อยก็เปิดโอกาสให้สื่อที่มีข้อสงสัยซักถามได้ (อยากถามเหมือนกัน แต่มันเป็นเรื่องทางวิชาการ เอาไว้คราวหน้าก็แล้วก็นะ... >0< อิอิ) จากนั้นก็กลับมาที่สำนักงาน เพื่อนๆ ก็ออกไปทำข่าวกัน แล้ววันนี้ก็ช่วยทำงานภายในสำนักงานเช่น การอัพข่าวขึ้นเว็บ IOC การส่งข่าวเข้ากรุงเทพฯ ค่ะ แล้วที่สำคัญวันอาทิตย์นี้หนูมีหน้าที่ไปทำข่าวกับพี่นกและก็พี่ปิ๊กค่ะ ไปทำถึงสามที่ด้วยกันค่ะ พอนัดแนะกันเรียบร้อยก็กลับบ้าน... (นอนหลับฝันดี)

วันพุธที่ 9 มิถุนายน 2553



วันนี้ไปถึงที่ทำงานก่อนแปดโมงเช่นเคยค่ะ วันนี้ได้มีงานเลี้ยงลาผู้หัวหน้าของฝ่ายสถานีโทรทัศน์กัน แต่ก็ยังคงมีการทำข่าวเช่นเดิม วันนี้มีข่าวเยอะมาก ได้ออกไปทำข่าวกันคนละ 1 ข่าวค่ะ วันนี้ได้ไปที่ชุมชนหลังสถานที่ราชการ เค้าเรียกกันว่าอย่างนี้อ่ะค่ะ เป็นการจัดโครงการออกหน่วยเคลื่อนที่ ที่สืบเนื่องมาจากวันที่ 7 ที่ผ่านมา ก็มีหน่วยงานทางภาครัฐมาให้บริการประชาชนเหมือนกับวันที่ 7 ค่ะ แต่วันนี้ได้เรียนทำดอกไม่จากริบบิ้นรอบสองแล้วก็ทำเป็นแล้วด้วย... อิอิ หลังจากที่พี่ช่างภาพเก็บภาพเรียบร้อย แล้วก็ได้สารข่าวพร้อมกับจดข้อมูลสำหรับเขียนข่าวเรียบร้อย ก็กลับมาที่สำนักงานค่ะบ่ายพอดี มาเขียนข่าวให้เรียบร้อย แล้วก็ส่งให้พี่ๆ ตรวจ ให้บก. ตรวจความสวยงามของคำความถูกต้องต่างๆ เรียบร้อยแล้วก็ส่งเข้าเว็บ IOC และส่งไปที่หน่วยงานของวิทยุซึ่งอยู่ข้างล่างของสำนักงานเพื่อเผยแพร่ข่าวที่ได้ไปทำมาผ่านทางวิทยุชุมชนต่างๆ และจากนั้นก็พักเที่ยง พอกลับมาก็ได้พักนิดหน่อยเพราะพี่ๆ ไปงานเลี้ยงส่งกันที่โรงแรมพูลแมน ในมหาวิทยาลัยขอนแก่น จากนั้นก็ทำงานที่พอจะช่วยเหลือพี่ๆ เค้าได้ตามปกติ พวกงานสำนักงานต่างๆ ที่พอจะช่วยพี่เค้าได้ แล้วก็ตอนเย็นมีงานเลี้ยงเกี่ยวกับรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือจากการที่ทางช่องโดนเผาทำลาย ก็ได้อยู่ช่วยพี่ๆ เค้าถึงมืดเลยค่ะได้กลับบ้านก็ประมาณสามทุ่ม (พี่ที่สำนักงานไปส่ง (พี่ทิพย์) อิอิ... ไม่ต้องเสียตังค์ค่ารถ) (ถึงบ้าน... แล้วก็นอน)

วันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2553

วันอังคารที่ 8 มิถุนายน 2553



วันนี้ถึงที่ทำงาน 07.50 ค่ะ ประมาณ 08.15 พี่นาง (พี่ที่ให้การบ้านข่าวไปทำ) ก็มาถึง เราก็เอาข่าวที่ตัวเองได้ไปเขียนมาจัดการ Print ให้เรียบร้อยแล้วก็นำไปให้พี่นางตรวจดูความเรียบร้อย ระหว่างรอทีมข่าวของพี่นกและพี่ทนก็มีข่าวเข้ามาก็เลยได้ออกไปทำข่าวค่ะ วันนี้ได้ไป 2 ที่ค่ะ ได้ไปที่โรงแรมแก่นอินทร์ ไปทำข่าวเรื่องเกี่ยวกับการอบรมตำรวจในการใช้เครื่องมือตรวจวัดแอลกอฮอล์ มีวิทยากรบรรยาย และก็ตำรวจจราจรก็เข้าฟังการบรรยาย โดยตำรวจภูธรภาค 4 เป็นผู้ที่จัดโครงการในครั้งนี้ค่ะ พอถ่ายภาพเก็บรายละเอียดเรียบร้อยก็ไปต่อกันที่ชุมชนวัดธาตุค่ะ ที่ชุมชนวัดธาตุมีงานเกี่ยวกับการบริการหน่วยอาสาสมัครเคลื่อนที่มาให้บริการ โดยจัดขึ้นที่วัดธาตุ ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น มีนายอำเภอเมืองจังหวัดขอนแก่นมาต้อนรับสื่อมวลชนและภายในงานก็มีกิจกรรมต่างๆ ทั้งการให้บริการทางด้านสาธารณสุขจากโรงพยาบาลศรีนครินทร์ในการตรวจโรค วัดความดัน และรับปรึกษาปัญหาทางด้านสุขภาพ จากกรมปศุสัตว์มาฉีดยาป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า จากศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนก็มาตัดผมให้แก่ชาวบ้านและจากกลุ่มแม่บ้านได้มาสอนวิธีการทำดอกไม้จากริบบิ้นให้แก่ผู้ที่สนใจ หลังจากนั้นก็ได้มีพิธีเปิดโดยให้ พันเอกนันทพล หน่ายเชื้อ รักษาราชการฝ่ายพลเรือน มทบ.23 ขึ้นกล่าวเปิดโครงการนี้ พี่นก (พี่เลี้ยงในการทำข่าว) ให้ออกไปหาสารข่าวเพื่อที่จะได้กลับมาเขียนข่าวที่สถานี แต่ว่าที่นี่ไม่มีสารข่าวค่ะ ก็เลยต้องไปขอคำกล่าวรายงานก็ไม่มีอีกเช่นกัน จึงได้ไปสัมภาษณ์ท่านนายอำเภอเมืองจังหวัดขอนแก่นเกี่ยวกับความเป็น วัตถุประสงค์ต่างๆ ของโครงการนี้ (ตื่นเต้นมาก ครั้งแรกเลยค่ะที่ไปคนเดียว) แล้วจากนั้นก็ไปสัมภาษณ์ท่านพันเอกนันทพล หน่ายเชื้อ เกี่ยวกับผลที่ต้องการให้เกิดหลังจากจัดโครงการนี้และก็ความคาดหวังของการจัดในครั้งนี้ ซึ่งก็มีเนื้อหาประมาณว่า ต้องการช่วยเหลือประชาชนอะไรประมาณนี้แหละค่ะ สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ชุมชนค่ะ หลังจากนั้นก็กลับมาที่สถานี ตอนขากลับพี่นกก็ได้บอกว่า พรุ่งนี้เอาคนอื่นมาหน่อยนะ รู้จักแค่สองคนเอง คนอื่นยังไม่รู้จักเลย (เราไปกับพี่เค้าตลอดเลยค่ะ ก็เลยต้องเปลี่ยนกันไปค่ะ... อิอิ) พอกลับมาถึงสถานีก็พักกลางวันไปกินข้าวกับเพื่อนๆ กลับมาจากกินข้าวก็มานั่งเขียนข่าวที่เราได้ออกไปทำมา ซึ่งเพื่อนอีกคน (ปุ๋ย) ได้เขียนข่าวเรื่องตำรวจ ส่วนเราได้เขียนข่าวเรื่องของหน่วยเคลื่อนที่ที่จัดขึ้นที่วัดธาตุค่ะ ก็เพิ่มได้รู้ว่าการเขียนข่าวมันยากมาก เราต้องรู้จักคำเยอะ ต้องรู้ประเด็นที่เราต้องการให้ข่าวมันเป็นไปอย่างไร ต้องมีการนำเสนอข่าวก่อนที่จะเข้าไปสู่ในเนื้อหาจริงๆ ก็แก้กันหลายรอบเลยทีเดียว พอให้พี่นกพี่เลี้ยงที่ออกไปทำข่าวดูเรียบร้อยก็ต้องเอาไปยื่นให้พี่นาง ซึ่งเป็นพี่บก. นั้นดูอีกหนึ่งรอบ แล้วก็แก้กันอีกครั้งนึง หลังจากนั้นจึงจะนำข่าวนั้นไปวางคู่กับเทปข่าวเพื่อให้พี่ตัดเทปข่าวมาให้ตรงกับเนื้อข่าวที่เราเขียน เป็นอันเสร็จกระบวนการของการทำข่าว แต่หลังจากนั้นเราก็ยังต้องมาแก้งานที่เราได้ส่งให้พี่นางดูเมื่อเช้านี้ค่ะ แก้ให้ดูสวยงามพี่นางก็จะมาสอนว่าตอนเริ่มเป็นอย่างไร ตอนเนื้อหาเป็นอย่างไรและตอนจบควรจะเป็นอย่างไร แล้วก็แก้ตามนั้น เรียบร้อยก็ Save เป็น File แล้วก็อัพขึ้นเว็บ IOC ค่ะ เป็นอันวันนี้เรียบร้อยไปอีกหนึ่งวัน
วันนี้สิ่งที่ยากลำบากที่สุดก็คือการเขียนข่าวค่ะ เพราะว่าข่าวที่เขียนนั้นไม่มีสารข่าวจึงมีประเด็นที่กว้างมากในการเขียน เพราะฉะนั้นวิธีการแก้ไขก็คือขอคำแนะนำจากพี่นกพี่ที่ไปทำข่าวด้วยกันและพี่เค้าก็ให้คำแนะนำมาก็จดและจำไปพัฒนาเอาในภายภาคหน้า... ขอบคุณค่ะพี่นก...

อาทิตย์ที่ 2 ของการฝึกงาน วันจันทร์ที่ 7 มิถุนายน 2553



วันนี้เราไปถึงที่ทำงาน 08.00 น.ค่ะ เมื่อไปถึงก็พักแปบนึงค่ะ แล้วก็ได้ออกไปทำข่าวกันข้างนอกค่ะ วันนี้ได้ไปกับทีมของพี่นกผู้ประกาศ และผู้ทนช่างภาพค่ะ วันนี้ได้ไปที่มัญจาคีรีค่ะ ไปทำข่าวตั้งแต่สามโมงครึ่ง (09.30) ถึงที่มัญจาก็ประมาณสี่โมงเช้า (10.00) ค่ะ มาทำข่าวเกี่ยวกับการฝึกอาสาสมัครประจำหมู่บ้านให้เตรียมพร้อมในการรับมือกับกลุ่มผู้ก่อการร้ายหรือขโมย โจรต่างๆ โดยทำงานร่วมกับตำรวจ และได้สัมภาษณ์พลตำรวจเอกมนตรี เป็นผู้กำกับอยู่ที่สถานีตำรวจที่มัญจาคีรีค่ะ แล้วก็ได้ไปรับประทานอาหารร่วมกันกับพี่ๆ นักข่าวช่องอื่นๆ (ช่อง 7 และก็ช่อง KTV ค่ะ) กินกันไปก็พูดคุยกันไปเรื่อยเปื่อยค่ะ ก็เลยลองถามพี่ทางช่อง 7 ว่าถ้ามีรุ่นน้องไปฝึกงานที่ช่อง 7 ได้มั๊ย พี่เค้าก็บอกว่าให้มาเลยมาตอนนี้เลยจนเราตั้งตัวไม่มันเลยว่าทำไมรับเร็วจัง จากที่สังเกตเนี่ยพี่สื่อมวลชนส่วนมากอารมณ์ดี๊ดี ไม่ค่อยจะมีใครเครียดสักเท่าไหร่เลย กินอาหารกลางวันที่ร้านอาหารร่วมกับพี่ๆ แล้วก็คุณตำรวจเสร็จก็แยกย้ายกันกลับสถานีของตัวเองค่ะ กลับถึงสถานีก็ประมาณบ่ายโมงค่ะ พี่นาง (เป็นพี่ บก. อีกคนของที่นี่ค่ะ) ก็บอกให้นำข่าวที่ขึ้นอยู่ในเว็บ NNT มาสรุปและก็เขียนข่าวเพื่ออัพขึ้นเว็บ IOC (เป็นเว็บของสำนักประชาสัมพันธ์ค่ะ ไว้สำหรับการให้ข่าว ประโยชน์ก็คือเรามีศูนย์ข่าวย่อยอยู่ตามจังหวัดต่างๆ ค่ะ เพื่อความสะดวกในการรับส่งข้อมูลข่าวสารกันแต่ละศูนย์ข่าวก็เลยมีเว็บนี้ขึ้น นี่เป็นประโยชน์ส่วนหนึ่งนะคะที่รู้ ส่วนประโยชน์อย่างอื่นก็ยังไม่ทราบเหมือนกันค่ะ แต่ก็คาดว่าคงจะมีเยอะนะคะ แต่ยังไม่เคยได้เลยเข้าไปใช้ส่วนอื่นๆ เลย เพิ่งได้เข้าไปอัพข่าวขึ้นอย่างเดียว >0<) วันนี้เราเด็กฝึกงานได้หัวข้อข่าวคนละหัวข้อ พี่ก็อธิบายถึงการเขียนต่างๆ ให้เราฟัง และก็ให้การบ้านเป็นการนำข่าวที่ได้รับมากลับไปเขียนกันให้เรียบร้อย... พรุ่งนี้ส่งนะจ๊ะ...

วันศุกร์ที่ 4 มิถุนายน 2553



ถึงที่ทำงานประมาณ 07.30 น. วันนี้มีข่าวทั้งหมด 4 ข่าวค่ะที่ต้องออกพื้นที่ ไปถึงก็รอพี่ช่างภาพที่จะต้องออกพื้นที่ด้วยกัน แต่ว่าเจอพี่กบพี่ช่างภาพที่ออกตอนประมาณสิบโมงมาแต่เช้าเลยค่ะ มานั่งคุยเล่น ทำงานไปด้วย สนุกสนานค่ะ ไม่นานพี่สุทนช่างภาพ กับพี่นก (ผู้ชายนะคะ) เป็นพิธีกร เข้ามา มาคุยเล่นด้วยนิดหน่อย รอเวลาออกไปทำงาน ประมาณ เกือบสิบโมงพี่เค้าก็เลยเรียกเรากับเพื่อนไปทำงานด้วย (สุดยอด ได้ออกแล้ว...) ได้ออกทำข่าวแล้วค่ะ สถานที่แรกของการทำงานข่าวในชีวิตก็คือ... มหาวิทยาลัยที่พระเรียนอยู่แถวสวนสาธารณะทุ่งสร้างค่ะ เป็นการจัดงานนิทรรศการวันสิ่งแวดล้อมโลก เกี่ยวกับสภาพสิ่งแวดล้อมไปดูบูธต่างๆ ที่เค้าจัดขึ้นมามีความน่าสนใจมากมายหลากหลายค่ะ มีก๊อกน้ำลอยได้ด้วย วันนี้มาออกพื้นที่กับเพื่อนปุ๋ยค่ะ (ดาราณี) พากันเดินดูงานไปเรื่อยๆ ส่วนพวกพี่เค้าก็ไปพบเพื่อนที่เป็นเพื่อนอาชีพเดียวกันอยู่รอเวลาที่เค้าจะเปิดงานค่ะ
จากนั้นก็ไปต่อที่งานปลาสวยงามที่กรมประมง อยู่แถวๆ ศาลากลางเมืองของจังหวัดขอนแก่นค่ะ ไปเดินชมดูงาน ดูปลาต่างๆ แล้วก็มีการทำสปาปลาด้วยแหละ สปาปลาคืออะไรรู้ป่าว ก็คือว่าสปาที่เอาปลามากัดเท้าอ่ะ กัดแล้วมันจะรู้สึกดีขึ้นหรือเปล่าก็ไม่รู้ยังไม่เคยลอง แต่เป็นปลาตัวเล็กๆ นะ
กลับมาถึงที่สำนักงานก็เกือบเที่ยงแล้ว อีกทีมนึงก็ออกไปทำข่าวที่เซ็นทรัลพลาซ่า กับภาค 4 ข่าวการเปิดสาขาใหม่ของ CAT SHOP ที่เซ็นทรัล แล้วก็ไปทำข่าวคดีแถลงข่าวโจรปล้นเซฟที่ภาค 4 ระหว่างนั้นที่สำนักงานก็มีการเลี้ยงกันเกิดขึ้น เลี้ยงอะไรน่ะหรอ เลี้ยงพี่ฝึกงานที่เค้ากำลังจะกลับวันนี้ คือทำงานวันนี้วันสุดท้ายอ่ะ ก็เลยเลี้ยงกันเป็นการใหญ่ เราก็เตรียมอุปกรณ์การกินให้พร้อมสำหรับการกิน อาหารก็คือ ส้มตำ คอหมูย่าง แหนม ลาบ ยำคอหมูและอีกเยอะแยะมากมาย กินไปก็คิดถึงเพื่อนที่ไปทำข่าวกันว่าเมื่อไหร่จะกลับมา กินใกล้จะเสร็จแล้วแต่ว่านุชอิ่มแล้วนะ ทีมนั้นก็กลับมา มากินทันพอดี ก็กินกันไปกินกันมาจนอิ่ม ทำความสะอาดเรียบร้อย ก็มาเขียนข่าวกัน อ้อ... ลืมเล่าว่าพวกที่ไปทำงานที่เซ็นทรัลนั้นได้ของกลับมาด้วย ได้แก้ว เสื้อกลับมาด้วยเพราะว่าเค้าแจกคนเข้างานที่เซ็นชื่อ เพราะที่ดีได้แบ่งของแจกมาให้พวกเราด้วย เป็นเพื่อนที่ดีกันจริงๆ อิอิ ของฟรีต้องแบ่งกันนะ
ตอนประมาณสามโมงก็... หัวหน้าปัญญาก็ได้เข้ามาพร้อมกับแหนมเนืองสองชุดใหญ่ๆ เราก็มานั่งคุยกันว่าทำไมวันนี้กินเยอะจังเลย ก่อนกินเราได้ขึ้นตึกไฟไหม้กันอีกหนึ่งครั้ง ก่อนไปก็แวะไปที่ฝ่ายศิลป์เพื่อไปหาของแล้วก็ขึ้นตึกขนของที่ใช้ได้กลับมาที่ตึกใหม่ที่ทำงานเนี่ยแหละ ขนของเสร็จกลับมาจัดของที่ใหม่ให้เข้าที่เข้าทางก็พากันกินแหนมเนืองร่วมกันกับพี่ที่ทำงานอีกหนึ่งรอบ กินเสร็จ ทำความสะอาด ก็ได้เรียนงานจากพี่ที่ฝึกงานเก่าเรื่องเกี่ยวกับการส่งงานเข้ากรุงเทพ แล้วก็การอัพข่าวเข้าเว็บ การดูสารข่าวต่างๆ การทำงานภายในอินเทอร์เน็ตหรือส่งข่าวให้บก. ตรวจหลังจากที่เราเขียนข่าวเสร็จ จากนั้นก็เลิกงานพอดีเป๊ะๆๆๆ

วันพฤหัสบดีที่ 3 มิถุนายน 2553



ถึงที่ทำงาน 7.50 ค่ะ วันนี้หน้าบอร์ดข่าวมีงานทั้งหมด 3 ที่ค่ะ เราคิดว่าจะได้ไปกันหมดทุกคนแต่แล้วก็...
พอถึงเวลาตามงานพี่ช่างภาพก็มาเรียกว่าใครจะไปกับพี่บ้างหนึ่งคน (ฮะ... หนึ่งคน) แล้วเพื่อนก็เลยรีบลุกไปเลย เพราะว่าทีมหนึ่งจะมีเพียงแค่ประมาณสามคนเท่านั้น ถ้ามากที่สุดก็สี่คน ก็วันนั้นมีพี่ฝึกงานคนเดิมที่กำลังจะฝึกงานเสร็จภายในอาทิตย์นี้แล้วไปด้วยอีกหนึ่งคน
เท้าความก่อนนะ ที่นี่มีเด็กฝึกงานอยู่แล้ว 3 คนค่ะ สองคนแรกเป็นประมาณรุ่นพี่เป็นคนบุรีรัมย์ ก็เก่งมากนะพี่สองคนนี้เค้าก็ฝึกงานเสร็จอาทิตย์นี้ เพื่อนก็พากันออกไปทำข่าวที่น้ำพองค่ะ ส่วนเราก็มีงานหนึ่งงานค่ะคืองานแกะเทปค่ะ งานแกะเทปเป็นงานของพี่เค้าให้ช่วยค่ะ ในเทปก็มีเนื้อหาเกี่ยวกับการอภิปรายภายในสภาค่ะ ก็พิมพ์ไปฟังไปเรื่อย ประมาณเกือบเที่ยงก็เสร็จแล้วก็เอาไปส่ง ระหว่างการแกะเทปนั้นก็มีงานทำข่าวเหลืออีกสองงานค่ะ แต่ว่า... ดั๊น... ไม่มีรถ รถสำหรับไปทำข่าว ก็เลยอยู่ที่ห้องประชุมนั่นแหละค่ะ
เพื่อนคนนึงกลับมาจากทำข่าวเราก็เลยถามก็ด้วยความตื่นเต้นปนอยากรู้อยากเห็นก็เลยซักถามกันเสียการใหญ่ เพื่อนก็เลยเล่าว่า “ชั้นไปแล้ว... ไม่เจอที่ที่ทำข่าวก็เลยถือว่าไปนั่งรถเล่นเฉยๆ อิอิ” ออ... เราก็เลยเพิ่งรู้นะเนี่ยว่ามีข่าวเข้ามาแล้วบางทีก็ไปเจอก็มีเหมือนกันหรอเนี่ย อืม... เป็นประสบการณ์ใหม่นะเนี่ย หลังจากนั้นก็ไปพักเที่ยง ไปกินข้าวกันค่ะ
กลับมาจากพักเที่ยงก็เหมือนเดิมค่ะทำงานที่พี่เค้าให้ทำเล็กๆ น้อยๆ และก็มีสารข่าวด่วนเข้ามาก็ให้เพื่อนอีกคนไปทำข่าว ฝ่ายเราก็นั่งคุยกับพี่ๆ เค้าไปเอาของในตึกที่โดนเผาไปแล้ว ไม่อยากจะบอกเลยว่าบรรยากาศข้างในเหม็นควันไฟอยู่เลยค่ะ แต่ตรงสำนักงานฝ่ายโทรทัศน์ไม่ได้ไหม้นะ แค่โดนหินเขวี้ยงมาทำให้กระจกนั้นแตกไปหมดเลย ที่ที่ไฟไหม้นั้นก็เป็นเพียงชั้นล่างแล้วก็ตรงบันได เหม็นมาก... ขนของจากตึกที่โดนเผาเสร็จเรียบร้อยเพื่อนก็กลับมาจากทำข่าว หลังจากนั้นพี่เค้าก็ตัดต่อภาพที่ไปถ่ายมาและพี่ฝึกงานเก่าก็เขียนข่าว งานข่าวเป็นงานที่เร่งรีบ รีบทำรีบเสร็จเพื่อที่จะได้ส่งข่าวไปให้ทางกรุงเทพออกอากาศ ก็อย่างที่บอกว่าสถานีขอนแก่นมันออกอากาศไม่ได้ ก็โดนเผานั่นแหละ พองานเรียบร้อยก็กลับบ้านค่ะ

วันพุธที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2553

วันพุธที่ 2 มิถุนายน 2553




มาถึงที่ทำงานตอน 7.50 พร้อมกัน 4 คน ทั้งหมดรีบมาเซ็นชื่อ เพราะกลัวจะ 8 โมงเดี๋ยวเข้างานสาย (ฝึกงานใหม่ก็อย่างนี้เสมอแหละ) แล้วก็ประจำที่... แฮะๆ... ที่เดิมโต๊ะประชุมตัวเดิมเลยมีบรรยากาศเหมือนเดิม
วันนี้งานหลักๆ ก็คือ... การเอาเทปที่ถ่ายเก่าๆ มาใส่เครื่องแล้วจดชื่อเรื่องและช่วงเวลาของเรื่องนั้นพี่เค้า (เราได้ใช้เครื่องตัดต่อแล้วแหละ ถึงจะได้ใช้งานแบบง่ายๆ ก็ตาม) เพื่อที่พี่เค้าจะได้รู้ว่าเทปม้วนนี้มีอะไรบรรจุอยู่ภายในบ้าง (ดีใจนะเนี่ย มีงานทำแล้ว) ตั้งอกตั้งใจกันทำงานตั้งแต่ 9 โมงเช้าจนถึง 12.30 น. ถึงได้ไปกินข้าวแต่ก็ยังไม่เสร็จนะ (เพราะว่ามันตั้งเกือบสิบม้วนแน่ะ) กินข้าวเสร็จก็ได้กลับมาทำต่อในตอนบ่ายหลังจากกินข้าวเสร็จ พอจดเรียบร้อยแล้วก็เอาชื่อนั้นไปพิมพ์ พิมพ์เรียบร้อยแล้วก็ถือว่าเสร็จงาน แล้วก็กลับสู่สภาพเดิม เบื่อ... จัง แต่พี่อู๋ พี่ช่างภาพก็มานั่งคุยด้วยค่ะ (สนุกจัง) ระหว่างคุยกันก็มีงานกระจุกกระจิกมาให้พวกเราช่วยอยู่เรื่อยๆ ค่ะ จนถึงเวลาเลิกงานพอดีค่ะ เราก็กลับบ้านตอนห้าโมงเย็น

วันแรกของการทำงาน วันอังคารที่ 1 มิถุนายน 2553



วันแรกของการทำงาน เป็นเรื่องที่ตื่นเต้นและแปลกใหม่สำหรับพวกเรานิสิตฝึกงานปี 4 เป็นอย่างมาก กลุ่มออกฝึกงานของเรามีด้วยกันทั้งหมด 4 คน เป็นผู้หญิงหมดเลยค่ะ
วันแรกเราพร้อมใจกันตื่นแต่เช้า (ไม่รู้ว่าต่อไปจะเป็นอย่างนี้หรือเปล่า...) เจ็ดโมงตรงกลุ่มของพวกเราก็พากันถึงที่ฝึกงานแล้ว (เชื่อป่ะ... อิอิ ไฟแรง) เราโทรหาพี่ที่เป็นพี่เลี้ยงของพวกเรา พี่เค้าบอหว่า “น้องนั่งเล่นไปก่อนนะแถวข้างๆ ตึกนั่นแหละ ใต้ต้นมะม่วงนะ เดี๋ยวประมาณ 8 โมงครึ่งพวกพี่จะไปถึงนะ” เราก็ตอบอย่างว่าง่าย “ค่ะ” แต่เมื่อวางสายแล้วก็พากันสุมหัวคุยกันว่า “แปดโมงครึ่ง! อีกชั่วโมงครึ่งเนี่ยนะ... เรากลับไปนอนต่อดีมั๊ย” แต่ก็แค่พูด ได้ได้ไปไหนกัน จากนั้นก็พากันพูดกันไปเรื่อย ต่างๆ นานา ประมาณ 8 โมงพนักงานก็เริ่มทยอยเข้ามาทำงานใน office เราก็รอคอย “พี่หญ้า” คนที่เราติดต่อว่าตอนแรกจะเป็นพี่เลี้ยงของพวกเรา (คิดเองเออเองเสร็จเรียบร้อย) พอมีคนเริ่มทยอยมาแล้วอากาศก็ร้อน เราเลยปรึกษากันว่าจะไปไหนดี ก็ตกลงว่าจะไปที่ทำงาน “เข้าไปในที่ทำงานกันเถอะ” พอขึ้นไปบนตึกในห้องของฝ่ายโทรทัศน์ก็เจอพี่อ้อ ก็ได้เข้าไปบอกกับพี่เขาว่า “พี่คะ สวัสดีค่ะ พวกหนูเป็นนักศึกษาฝึกงานค่ะ” อย่างนอบน้อมสุดๆ จากนั้นพี่เค้าก็ถามถึงหนังสือที่ส่งตัวพวกเราเข้าไปทำงาน ก็เลยเอาหนังสื่อส่งตัวให้กับพี่แอ้ พี่แอ้ก็บอกว่า “ไปรอ “พี่ติ๋ว” กันข้างนอกก่อนนะไปนั่งเล่นกันก่อน” ก็ตอบอย่างว่าง่ายตามเดิม “ค่ะ” แต่ในใจก็คิดว่า “เพิ่งเข้ามาเมื่อกี้เองอ่ะ... เฮ้อ ร้อนอีกแระ” ก็พากันขนย้ายตัวกันออกมาจากตึกมารอที่ต้นมะม่วงข้างตึกตามเดิม
“เบื่อ!!! อ่ะ... รอ... รอ... รอ...” นานมาก ต้องอดทนนั่งเมาท์กันไปเรื่อยๆ จนคิดว่า ช่อง 11... เพิ่งโดนเผานี่ เรา... ไปดูกันดีมั๊ยอ่ะ >_< อยากดู” ตามประสาคนอยากรู้อยากเห็น... อิอิ พอพูดจบก็พากันเดินตากแดดไปดูตึกที่เหลือแต่ซากจะเข้าก็เข้าไปไม่ได้เพราะว่ามันเป็น “เขตุอันตราย ห้ามเข้า!!!” อืม เราก็พากันเดินตากแดดกลับมาที่พักของพวกเรา “ต้นมะม่วงข้างตึกนั่นเอง”
8.25 น. “เข้าไปกันเถอะ” ชวนกันขึ้นตึกอีกครั้ง เพราะว่าเราอยากทำงานม๊ากมาก (จริงๆ ข้างล่างมันร้อนมากๆ เลย) ขึ้นไปที่ห้องเดิมและก็ได้คำตอบเหมือนเดิม “รอก่อน” เฮ้อ... รอก่อนนะพวกเรา คราวนี้เราพากันนั่งรอพี่เค้าหน้าห้องเลย เอาซิ เพราะว่าแปดโมงครึ่งแล้วอ่ะจะลงไปคนก็เยอะเกรงไปหมดเลย... ก็เลยนั่งรออยู่หน้าห้อง... ดั๊น... เป็นที่ที่เค้าลงชื่อกับที่ชงกาแฟกินของเจ้าหน้าที่กัน อ้อ... ลืมบอกไป... ด้วยความที่เป็นเด็กใหม่ จากการที่ท่านอาจารย์ได้สอนให้มือไม้อ่อน ตั้งแต่เช้ามากจนถึงตอนนี้เกือบๆ 9 โมงแล้ว เราไหว้คนในสำนักงานทั้งหมดรวมกันน่าจะเกิน 50 คนนะ... ไม่งั้นก็เกิน แต่!!! ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่เราไม่อยากไหว้หรอ... ไม่ใช่หรอก เราไหว้ได้สบายมากด้วยแต่อย่างที่บอกมันเป็นที่ลงชื่อกับที่ชงกาแฟ ดื่มน้ำตรงนั้น มันทำให้มีคนเยอะมาก แล้วก็เดินกันวนไปวนมาแล้ว... แล้ว... ใครล่ะที่เราไหว้แล้วอ่ะ ก็ต้องช่วยกันจำว่า คนนี้ไหว้แล้วนะ ถ้าไหว้ซ้ำก็ยิ้มๆ กันไป เนียนๆ ค่ะ แต่คนที่นี่อารมณ์ดีและใจดีมากๆ ด้วย ทุกคนเลยจริงๆ ค่ะ ไม่มีใครเคร่งเครียดเท่าไหร่ เดินไปเดินมาก็พูดเล่นกับพวกเราเสมอ... น่าสนุกดีนะเนี่ย ระหว่างนั่งรอก็พากันคุยกันว่าใครจะอยู่ฝ่ายไหน เพราะตอนมาส่งเอกสารพี่เค้าบอกให้อยู่ฝ่ายละ 2 คนเท่านั้น 2:2 เราก็ทำการคัดแยกออก เลือกด้วยความยุติธรรมจากการ “โอน้อยออก” และ “เป่ายิ้งฉุบ” สรุปได้เรียบร้อยแล้ว นุชได้อยู่ฝ่ายรายการ
9 โมงเห็นจะได้ ในที่สุดพี่ติ๋วก็มาถึง พี่เค้าเรียก พวกเราก็พากันเดินเข้าไปในห้องทำงานเล็กๆ ที่อยู่รวมกัน 3 ฝ่ายในนั้น (ที่จริงเป็นห้องที่ใหญ่นะ แต่เนื่องจากไฟไหม้ไงก็เลยต้องย้ายมาตึกหลัง ซึ่งเล็กแต่สำนักงานทั้งหมดต้องอยู่ที่นี่และแบ่งกั้นห้องเรา) เข้าไปพบพี่เลี้ยงก็ได้ทำการแนะนำในการประพฤติปฏิบัติตน การแต่งกายและอะไรต่างๆ มากมายเกี่ยวกับการทำงานในฝ่ายต่างๆ รวมทั้งตอบคำถามท่ะวกเราสงสัยด้วย พี่ติ๋วบอกว่าช่วงนี้ยังไม่ค่อยได้ทำอะไรหรอกนะเพราะว่าของมันยังไม่เข้าที่เท่าไหร่ ก็มีอะไรที่ช่วยพวกพี่ๆ เค้าได้ก็ช่วยไปก่อนนะ ประมาณเดือนนึงก็น่าจะเข้าที่เรียบร้อย” และสุดท้ายที่พี่เค้าบอกก็คือ “หาที่นั่งเอาเลยนะ อย่ากนั่งตรงไหนก็เอาเลยนะ” (แล้วเราจะนั่งตรงไหนกันเนี่ย ห้องก็... แหม... ช่างใหญ่เสียนี่กระไร)
ท้ายสุดเราก็ได้มารวมตัวกันอยู่ที่โต๊ะประชุมของฝ่ายข่าว เค้าก็เดินวนกันไปมาเราก็นั่งกลางโต๊ะประชุม กลางห้องอย่างนั้น คามรู้สึกส่วนตัวคือ “เรามันตัวเกะกะหรือนี่ มีอะไรให้เราทำมั๊ยน้า...” จากความรู้สึกนี้ก็ได้เดินไปที่ฝ่ายรายการของตัวเองและถามว่า “พี่คะมีอะไรให้ช่วยมั๊ยคะ มีอะไรให้ทำก็เรียกใช้ได้เลยนะคะ” พี่เค้าตอบว่า “อย่าเพิ่งไฟแรง ช่วงนี้มันยังไม่เข้าที่เดี๋ยวสักพักก่อนนะ” แต่ที่สำคัญได้รู้ชื่อของพี่ๆ ฝ่ายนั้นเพิ่ม 3 คน “พี่อ้อนสุดสวย พี่แอ้สุดสวย และพี่แจ๊ค” แล้วก็เดินกลับมานั่งหงอยอยู่ที่โต๊ะเหมือนเดินเฮ้อ...
ปัง!!!... เสียงปิดประตู นักศึกษาฝึกงานคนแรกที่ได้เจอเข้ามา มาถึงเค้าก็มานั่งตัดเทปเกี่ยวกับคนเสื้อแดงนี่แหละ เราก็ทำได้ตั้ง... เฮ้อ... นั่งดูเฉยๆ เท่านั้น ระหว่างนั้นเราก็ยังคงไหว้คนที่เข้ามาใหม่ๆ เหมือนเดิม และมีพี่คนหนึ่งเอากล้อง “DVCAM” เข้ามาวางไว้ที่กลางโต๊ะ “เพื่อนถามพี่เค้าว่า “ตัวนี้หนักมั๊ยคะ” พี่เค้าบอกว่า “ลองยกดูเลย” เพื่อนหนูเป็นคนตัวเล็ก ผอม “ยกไม่ขึ้น!” (แฮะ... ก็มันหนักนี่) แล้วพี่เค้าก็ไปตัดข่าวที่ถ่ายมา เขียนข่าวที่ไปทำมา ปุ๊บ... ปั๊บ... ปุ๊บ... ปั๊บ... แป๊บเดียวเสร็จแล้วหรอ อืม... สุดยอดขั้นเทพ
พี่ที่เป็นนิสิตฝึกงานก็หันมาคุยด้วย แนะนำตัวกันไปเรื่อยเปื่อยพี่เค้าชื่อพี่แจ็ค ชื่อเหมือนกับพี่ที่อยู่ฝ่ายรายการเลย พี่ก็แนะนำเรื่องต่างๆ แล้วก็ดูการใช้งานของเครื่องตัดต่อที่มีมอนิเตอร์แยกกันอยู่สองตัวที่เราไม่เคยมีโอกาสได้ใช้ ก็สอนบ้าง... คุยบ้าง... สลับกันไป พี่แจ๊คอยู่ฝ่ายข่าวค่ะ อีกสามสี่วันพี่เค้าก็กลับเข้าสังกัดมหาลัยเค้าแล้ว
วันนี้ช่วงเช้างานคือ นั่ง... นั่ง... แล้วก็นั่ง... (มองหน้ากันเฉยๆ เท่านั้น)
แล้วพอใกล้ๆ เที่ยงก็มีพี่อู๋กับพี่กบพี่ช่างภาพมาแนะนำการใช้กล้อง DVCAM ตัวที่วางอยู่บนโต๊ะที่เรานั่งกันนั่นแหละ เราก็ได้จับ ได้แตะ ได้กดนู่นกดนี่ ไปตามประสาของคนอยากรู้อยากเห็นและก็ไปกันข้าวที่โรงอาหารของสำนักงาน ซึ่งในย่านนั้นมีเพียงสองร้านเท่านั้นร้านแรกคือร้านข้าวแกง อีกร้านก็ร้านก๋วยเตี๋ยว วันนี้เลือกกินก๋วยเตี๋ยวค่ะ ก็อร่อยดีเกาเหลา + ข้าวเปล่า อิ่มมาก
หลังจากพักเที่ยง ก็เริ่มมีงานถ่ายเอกสารที่พี่ๆ เค้าสอนให้ช่วยงานก็ทำให้มีงานบ้างพอไม่เหงา แล้วก็ช่วยพี่เค้าตามสั่งไปเรื่อยๆ ถึงตอนห้าโมงเย็นก็กลับบ้าน (นอน... หลับ)